วันอังคารที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2553

Week 5 : 7/12/10

Case California State Automobile Association
ปัญหา : IT infrastructure ใกล้จะถึงช่วงระยะเวลาอิ่มตัว vendor ไม่สามารถที่จะ support ระบบได้ และการปรับปรุงไม่สามารถทำได้
แนวทางในการแก้ไข : replace server เช่นใช้ Web farms แทน
ผลลัพธ์ที่ได้ : ได้ผลตอบแทนกลับมา 7.5$ ภายใน 1 ปี มี ROI 493% ทำให้จัดส่งสินค้าได้เร็วขึ้น ลดต้นทุนในการให้บริการ ลดต้นทุนของการเป็นเจ้าของIT infrastructure ทั้งระบบยังมีความปลอดภัยมากขึ้น

Moore's Law
- Power of computer chip จะพัฒนาขึ้นเป็น 2 เท่าในทุกๆ 18 - 24 เดือน
- องค์กรมีโอกาสที่จะซื้อของที่คุณภาพดีในราคาที่ถูก
- เมื่อพิจารณาจาก Price to Performance จะพบว่ามันควรที่จะลดลงในรูปแบบ Exponentially
- เมื่อถึงจุดอิ่มตัวของเทคโนโลยีหนึ่ง ก็ต้องเปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยีอื่น

Productivity Paradox
หมายถึงการที่เทคโนโลยที่ใช้มีประสิทธิภาพมากขึ้นแต่ benefit ที่ได้กลับไม่เพิ่มขึ้นเท่าที่ควร เกิดเป็นความขัดแย้งในการวัดผลระหว่างเงินลงทุนกับการวัดผลของ output ที่ได้ ซึ่งควรเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ที่เป็นเช่นนี้ เนื่องจาก
- Productivity gain วัดยากและไม่สามารถเห็นได้ชัดเจน
- Productivity gain อาจหักลบกลบหนี้กับการลงทุนที่สูง ซึ่งทำให้ไม่เห็นผลที่ชัดเจน
- การลงทุนใน IT อาจทำให้ต้องไปปันส่วนเงินจากด้านอื่น ซึ่งทำให้  Productivity gain หักลบกลบหนี้กับเงินที่ใช้ไปแล้ว จึงไม่เห็นผลชัดเจน
- การลงทุนใน IT อาจเห็นผลที่ช้า
- อาจมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลให้ผลลัพธ์ที่จะได้ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้

Does Productivity Paradox still matter?
 - ผลของการนำ IT มาใช้ให้มองในระดับองค์กรก็พอ โดยดูว่ามันสามารถที่จะเพิ่ม Productivity ขององค์กรได้หรือไม่
- ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ  First order impact ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่ได้จากการลงทุนด้าน IT โดยตรง เช่น ลดค่าขนส่ง มีรายได้หรือผลกำไรเพิ่มขึ้น และ Second order impact เป็นผลลัพธ์ทางอ้อมที่เกิดขึ้นจากการลงทุนในด้าน IT เช่น มี market share เพิ่มขึ้น สามารถให้บริการลูกค้าได้ดีขึ้น

Why justify IT Investment?
- เนื่องจากการลงทุนใน IT มีต้นทุนที่สูง จึงไม่สามารถที่จะลงทุนได้ทุกโครงการ
- ที่ผ่านมาไม่มีการประเมินโครงการ ทั้งนี้เนื่องจากบริษัทไม่มีความชำนาญ เครื่องมือและกระบวนการที่เพียงพอในการคำนวณ ROI
- เมื่อมีการใช้งาน IT ไปแล้วไม่มีการติดตามประเมินผลในภายหลัง
- การนำระบบ IT มาใช้ไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด
- การประกาศการลงทุนจะทำให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น
- ผลสำเร็จจากการปรับใช้ IT สะท้อนผ่านผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นของคนในองค์กร
        ด้วยสาเหตุทั้งหมดข้างต้นทำให้การประเมินโครงการลงทุนทางด้าน IT เป็นเรื่องที่สำคัญ จำเป็นที่จะต้องมีการวิเคราะห์เพื่อความสอดคล้องและประสิทธิภาพในการดำเนินงาน รวมไปถึงการบริหารงาน

The IT Justification Process
- ตั้งกรอบในการวิเคราะห์และจัดทำ ROI
- สร้างตัววัดที่มีประสิทธิภาพ
- ใช้ cost-benefit ในการประเมิน
- ประเมินผลออกมาเป็นตัวเลข ซึ่งรวมไปถึงการประเมินความเสี่ยงด้วย
- พิจารณาว่าการใช้ IT สะท้อนและสอดคล้องกับกลยุทธ์ขององค์กรหรือไม่
- ไม่ควรประเมินต้นทุนที่เกิดขึ้นสูงหรือต่ำจนเกินไป
- ควรร่วมมือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้ง vendor และ top manager

Difficult in Measuring Productivity& Performance Gains
- ยากที่จะระบุว่าจะวัดอะไร
- เนื่องจากมี time lag ทำให้การวัดผลต้องทำหลัง install ระบบไปแล้ว และต้องทำอย่างสม่ำเสมอ
- การหาความสัมพันธ์ระหว่างเงินลงทุนและ performance ขององค์กรทำได้ยาก

Costing IT Investment
แบ่งเป็น fixed cost ซึ่งเป็นการลงทุนในส่วนของ infrastructure และ transaction cost ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นหลังจากที่ได้ install ระบบแล้ว อันได้แก่ ต้นทุนในการค้นหาสินค้าของลูกค้า ต้นทุนในการจัดหาข้อมูล ค่าใช้จ่ายในการเจรจาตกลงซื้อขาย ต้นทุนในการตัดสินใจและต้นทุนใน monitoring

Revenue Models generated by IT&Web
- Sales
- Transaction fees
- Subscription fees
- Advertising fees
- Affiliate fees

Cost-Benefit Analysis
- ดูว่าโครงการลงทุนคุ้มค่าหรือไม่ โดยเปรียบเทียบเงินที่ใช้ในการลงทุนกับผลประโยชน์ที่ได้รับ
ซึ่งสามารถทำได้โดยการระบุ ประเมินค่าใช้จ่ายและผลประโยชน์ที่ได้ในรูปของตัวเงิน
- ในส่วนของ Intangible benefit ก็ต้องพยายามประเมินออกมาเป็นตัวเงินให้ได้เช่นกัน

Cost-Benefit Evaluation Techniques
- Net Profit : สนใจแค่กำไรทั้งก้อน ละเลยเรื่องของสัดส่วนเงินลงทุนต่อผลกำไรและมูลค่าของเงินตามเวลา
- Payback period : พิจารณาระยะเวลาของการคืนทุนเพียงอย่างเดียว ละเลยเรื่องของผลกำไร สัดส่วนเงินลงทุนต่อผลกำไรและมูลค่าของเงินตามเวลา
- ROI : พิจารณาสัดส่วนของเงินลงทุนกับผลตอบแทนที่จะได้รับ แต่ละเลยในเรื่องของมูลค่าของเงิน
- NPV : พิจารณาในส่วนของกระเเสเงิน ซึ่งเป็นการคำนึงมูลค่าของเงินตามเวลา อย่างไรก็ตามอาจมีปัญญาในเรื่องของการตัดสินใจใช้ discount rate ได้ ซึ่งทำให้การประเมินทำได้ยาก
- IRR :  เป็นการประเมินผลเพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาในการเปรียบเทียบ NPV ระหว่างโครงการ การคำนวณ IRR ทำได้โดยหาจุดที่ทำให้ NPV เป็น 0

Advanced Methods for Justification IT Investment
- Financial
- Multicriteria
- Ratio
- Portfolio
นอกจากนี้ยังมีวิธีการอื่นๆที่สามารถใช้ในการประเมินโครงการลงทุนได้

TCO
เป็นการมองต้นทุนทั้งหมดที่เกิดขึ้นทั้ง Life time ของการปรับใช้ IT อาจนำมาใช้ในการวิเคราะห์คู่กับ TBO

Benchmark
เป็นการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานกับค่าเฉี่ยอุตสาหกรรมหรือผ฿นำในอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นการวัดผลแบบ Objective

Balance Scorecard Method
เป็นการประเมินผลใน 4 ด้าน ได้แก่
- Financial perspectives
- Customer  perspectives
- Internal Process  perspectives
- Learning and growth  perspectives

E- Procurement Metrics
เป็นการจัดซื้อจัดจ้างผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ระยะเวลาในการสั่งซื้อสินค้าลดลง

E-Commerce
เป็น web base system มีไว้สำหรับสนับสนุนกลยุทธ์ขององค์กร

Where costs of IT investment go?
- มองเป็น overhead cost คิดจากส่วนกลาง
- คิดตามระยะเวลาการใช้งาน

Major Management Issues
- การเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วของเทคโนโลยี
- ต้องมองทั้ง tangible และ intangible benefits
- ต้องมีการวัดผลสม่ำเสมอ
- มีการประเมินผลความเสี่ยงออกมาเป็นตัวเงิน
- ใช้ chargeback ในการสร้าง incentive
- วัดผลโดยเลือกใช้เครื่องมือหลายๆวิธี
- มีผู้ที่เกี่ยวข้องหลายๆฝ่ายมาร่วมในการประเมิน
 
                


 



 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น